The Power of Sound: How Brands Use Music and Sound Effects to Influence Consumer Behavier

Ref: https://www.linkedin.com/pulse/power-sound-how-brands-use-music-effects-influence-consumer/

แปลบทความ

พลังของเสียง: วิธีการที่แบรนด์ใช้เพลงและเอฟเฟคเสียง เพื่อส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค

คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้เสียงเพื่อทำการตลาด ทำให้คนจดจำแบรนด์ได้มากถึง 96% เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้แค่ภาพ

เพลงและเอฟเฟคเสียงเป็นเครื่องมือที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค อย่างสตาร์บัคส์ ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ดี ของบริษัทที่ใช้พลังของเพลงเพื่อเสริมประสบการณ์ให้กับลูกค้า

ในร้านสตาร์บัคส์ เลือกใช้เพลงเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นสมาธิและส่งเสริมด้านการศึกษา รวมถึงเพลงช้า ๆ คลอเบา ๆ ที่กระตุ้นให้ลูกค้าอยากพักนานขึ้นและใช้เงินมากขึ้น

นอกจากเพลงแล้ว สตาร์บัคส์ยังใช้เอฟเฟคเสียงเพื่อเสริมประสบการณ์ในการรับรู้แบรนด์ตัวเองอีกด้วย อย่างเช่น เสียงเครื่องทำกาแฟ เสียงนมที่ถูกคน เสียงเมล็ดกาแฟที่กำลังคั่ว ทำให้สัมผัสได้ถึงความสดชื่น และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชงกาแฟได้ด้วย

แบรนด์อื่นๆ ก็ใช้เพลงและเอฟเฟคเสียงเพื่อสร้างอารมณ์ที่แน่นอนและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ร้านค้าปลีกหลายแห่งจะเล่นเพลงที่มีความรู้สึกขึ้นเพื่อสร้างความพลุ่งพล่านและความตื่นเต้น ในขณะที่แบรนด์หรูหราอาจใช้เพลงคลาสสิคเพื่อสร้างบรรยากาศของความหรูหราและสง่างาม

อย่างไรก็ตาม การตลาดด้วยเสียงไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในสถานที่ขายปลีกเท่านั้น มันสามารถใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่นในภาพยนตร์ โทรทัศน์ และเกม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับลูกค้า

คุณรู้ไหมว่าการตลาดด้วยเสียงได้ถูกใช้ในวงการภาพยนตร์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว เอฟเฟคเสียงถูกใช้ครั้งแรกในภาพยนตร์ตั้งแต่ยุค 1920 ประสบการณ์เสียงสามารถเพิ่มความเข้าถึงอารมณ์ในแต่ละฉาก สร้างความตึงเครียดหรือแรงดึงดูด เช่นเพลงประกอบที่โด่งดังจากภาพยนตร์ "Jaws" ที่กำลังสื่อถึงความอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในอุตสาหกรรมเกม เอฟเฟคเสียงถูกใช้เพื่อเสริมประสบการณ์การเล่นเกม อย่างเช่น เสียงของปืนที่ถูกยิง หรือเสียงของรอยเท้าขณะเดินในเกมที่ช่วยสร้างความรู้สึกสมจริงสำหรับผู้เล่น นอกจากนี้ เพลงยังสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ขณะเล่นเกม อย่างเช่น ในช่วงต่อสู้กับบอส หรือตอนเปลี่ยนฉากที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น

ดังนั้น แบรนด์ของคุณสามารถใช้เสียงเพื่อเพิ่มประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูกค้าได้ โดยหนึ่งวิธีคือ การสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณ อาจเป็นเสียงหรือเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของท่าน ก็จะช่วยให้คนระลึกถึงแบรนด์ สร้างความรู้สึกและความไว้วางใจกับลูกค้าของคุณได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆที่สามารถใช้เสียงเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับลูกค้าของคุณได้นั่นก็คือ การใช้ Podcast หรือว่าจะเป็น Audio Tour ก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์คุณ รวมทั้งอยากมีส่งนร่วมมากขึ้นอีกด้วย

สรุปแล้ว การใช้เสียงในเชิงการตลาด นับเป็นเครื่องมือที่มีอำนาจต่อการสร้างอารมณ์ และมีผลต่อพฤติกรรมของลูกค้า การเลือกเพลงและเอฟเฟคเสียงอย่างรอบคอบ จะช่วยทำให้แบรนด์มีเอกลักษณ์ ช่วยเสริมประสบการณ์ของลูกค้า และสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่น่าจดจำและน่าสนใจมากขึ้นได้